บอลลูนหัวใจ รักษาหลอดเลือดหัวใจตีบ สะดวก ปลอดภัย

ศูนย์ : ศูนย์หัวใจ

บทความโดย : นพ. ศิรพัชร์ พูนวุฒิกุล

บอลลูนหัวใจ

บอลลูนหัวใจ หรือ การขยายหลอดเลือดหัวใจด้วยบอลลูน (Balloon Angioplasty) ร่วมกับการใส่ขดลวด (Stent) เป็นการรักษาผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ซึ่งเป็นภาวะที่หลอดเลือดแดงที่นำเลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจเกิดการอุดตันหรือตีบแคบลง ส่งผลให้เกิดอาการเจ็บหน้าอก เหนื่อยหอบ และอาจนำไปสู่ภาวะหัวใจวายเฉียบพลันได้ โดยการรักษาด้วยบอลลูนหัวใจเป็นการรักษาแบบรุกล้ำน้อยที่ช่วยเปิดหลอดเลือดที่ตีบตัน ทำให้เลือดสามารถไหลเวียนไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจได้ดีขึ้น ผู้ป่วยฟื้นตัวในระยะสั้น ช่วยบรรเทาอาการและลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง


บอลลูนหัวใจ คืออะไร?


บอลลูนหัวใจคืออะไร บอลลูนหัวใจคืออะไร

บอลลูนหัวใจ หรือ การขยายหลอดเลือดหัวใจด้วยบอลลูน Balloon Angioplasty คือ หนึ่งในวิธีการรักษาผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบโดยไม่ต้องใช้การผ่าตัด เป็นการขยายหลอดเลือดหัวใจให้กว้างขึ้น ด้วยการสอดสายสวนหัวใจ ซึ่งเป็นท่ออ่อนที่มีบอลลูนขนาดจิ๋วอยู่ตรงปลายเข้าไปทางหลอดเลือดที่บริเวณขาหนีบ หรือข้อมือ เมื่อถึงบริเวณที่หลอดเลือดตีบจึงต่อสายบอลลูนเข้ากับเครื่องมือที่อยู่ภายนอกร่างกาย เพื่อดันให้บอลลูนขยายออก เบียดคราบไขมัน คราบหินปูนที่เกาะอยู่ที่ผนังหลอดเลือดให้ยุบแบนลงและขยายหลอดเลือดให้กว้างออก เพื่อให้เลือดไหลไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจได้ดีอีกครั้ง

ทั้งนี้การทำบอลลูนหัวใจ แพทย์อาจพิจารณาใส่ขดลวด (stent) ที่มีลักษณะเป็นโครงตาข่าย เข้าไปค้ำยันยึดติดกับผนังหลอดเลือดที่ตีบ เพื่อเสริมความแข็งแรงในการขยายหลอดเลือดหัวใจในตำแหน่งที่ทำการขยายบอลลูนร่วมด้วย ซึ่งจะให้ผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ในบางกรณีอาจมีการนำขดลวดที่เคลือบด้วยยามาใช้แทนขดลวดธรรมดา เพื่อป้องกันการตีบซ้ำของหลอดเลือดหัวใจเมื่อเวลาผ่านไป

> กลับสารบัญ


ทำไมถึงต้องทำบอลลูนหัวใจ?

การทำบอลลูนหัวใจจะช่วยดันไขมันที่อุดตันหลอดเลือดอยู่ให้ไปชิดผนังหลอดเลือด ทำให้เลือดสามารถไหลผ่านจุดที่เคยตีบได้สะดวกขึ้น ลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันจากหลอดเลือดหัวใจอุดตันได้ โอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนต่ำกว่าการผ่าตัดบายพาส เพราะไม่ต้องทำการผ่าตัดและดมยาสลบ นอกจากนี้หลังการทําบอลลูนหัวใจ พักฟื้นกี่วัน โดยใช้เวลาเฉลี่ย 1-2 วัน ก็สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้เป็นปกติ โดยไม่ต้องกังวลกับอาการภาวะหัวใจขาดเลือด สามารถทำซ้ำได้หลายครั้ง ในกรณีที่หลอดเลือดหัวใจตีบแคบลงอีกในอนาคต แต่หากผู้ป่วยที่มีหลอดเลือดตีบหลายเส้นหรือมีโรคร่วมอื่น เช่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ ลิ้นหัวใจรั่ว เป็นต้น แพทย์อาจพิจารณาการรักษาด้วยวิธีบายพาสหัวใจ

> กลับสารบัญ


การเตรียมตัวก่อนการทำบอลลูนหัวใจ

การเตรียมตัวก่อน การทําบอลลูนหัวใจ คือ

  • ผู้ป่วยต้องงดอาหารและน้ำดื่ม 6-8 ชั่วโมง
  • แพทย์จะสอบถามอาการแพ้ยาและแพ้อาหารทะเล โรคประจำตัว และตรวจร่างกายผู้ป่วย
  • หากผู้ป่วยมียาที่รับประทานเป็นประจำ ได้แก่ ยาเบาหวาน โดยเฉพาะยาละลายลิ่มเลือด ควรแจ้งให้แพทย์ทราบ และนำมาให้แพทย์ดู

> กลับสารบัญ


ขั้นตอนการขยายหลอดเลือดหัวใจด้วยบอลลูนและขดลวด


ขั้นตอนการทำบอลลูนหัวใจ ขั้นตอนการทำบอลลูนหัวใจ
  1. แพทย์จะฉีดยาชาเฉพาะที่ก่อนทำการเจาะหลอดเลือดแดงบริเวณข้อมือหรือขาหนีบ
  2. แพทย์จะสอดท่อพลาสติกอ่อนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2 มิลลิเมตรเข้าไปในหลอดเลือดแดง เพื่อเป็นทางผ่านเข้าออกของสายสวนหัวใจเข้าสู่หลอดเลือดแดงใหญ่ของหัวใจ
  3. จากนั้นจะทำการฉีดสี หรือสารละลายทึบรังสีเข้าไปในท่อเล็กๆ นี้ ทำให้สามารถเห็นภายในหลอดเลือดว่ามีการตีบที่บริเวณใด
  4. เมื่อพบจุดที่หลอดเลือดตีบ แพทย์จะทำการใส่สายสวนหัวใจ เพื่อทำการขยายหลอดเลือดที่ตีบแคบด้วยบอลลูนและขดลวดถ่างขยาย (Stent) ใช้เวลาประมาณ 45 – 60 นาที หลังจากดำเนินการเสร็จแล้ว ท่อที่ขาหนีบหรือข้อมือจะถูกดึงออกและกดรูเข็มที่เจาะไว้ แล้วกดตรงบริเวณที่ใส่สายเข้าไป เพื่อให้เลือดหยุด โดยใช้ยาหรือใช้อุปกรณ์ช่วยให้เลือดหยุดได้เร็วขึ้น แล้วแต่กรณีและความเห็นของแพทย์ผู้ทำหัตถการ

> กลับสารบัญ



ปรึกษาแพทย์ออนไลน์

หลังจากทำบอลลูนหัวใจควรปฏิบัติตัวอย่างไร?

  1. ต้องนอนราบอย่างน้อยประมาณ 6 – 10 ชั่วโมง หลังทำการตรวจสวนหัวใจ
    • กรณีทำการฉีดสีผ่านขาหนีบ หลังจากทำเสร็จจะดึงสายสวนออก และกดบริเวณขาหนีบประมาณ 15 นาที โดยไม่ต้องเย็บแผล ผู้ป่วยต้องนอนราบ และงอขาหนีบไม่ได้ 6-10 ชั่วโมง ไม่สามารถลุกนั่ง หรือเดินได้ในทันที
    • กรณีทำการฉีดสีผ่านข้อมือ วิธีนี้จะเหมาะกับผู้ป่วยที่มีน้ำหนักตัวมาก อ้วนมาก หรือมีภาวะหลอดเลือดขาส่วนปลายตีบ โดยใช้ระยะเวลาพักฟื้น 4-8 ชม. หลังจากทำเสร็จสามารถลุก นั่ง หรือยืนได้ทันที มีเพียงสายรัดข้อมือ (TR band) ใส่ไว้ แต่ไม่นานก็สามารถถอดออกได้
  2. ระหว่างนี้ควรจะดื่มน้ำ ประมาณ 1 ลิตร หากไม่มีข้อจำกัดเรื่องน้ำดื่ม เพื่อขับสารทึบรังสี
  3. ดูแลแผลตำแหน่งที่ทำหัตถการ อย่าโดนน้ำประมาณ 3 วัน หรือหากโดนให้ใช้เบตาดีนเช็ดบริเวณแผล
  4. สังเกตตำแหน่งบริเวณที่ทำหัตถการ หากมีเลือดไหล ปวด บวม แดงร้อน หรือเย็น ซีด เป็นก้อน ให้แจ้งพยาบาลประจำหอผู้ป่วยได้ทันที
  5. ถ้าปวดแผลบริเวณที่ทำหัตถการ สามารถรับประทานยาแก้ปวดได้ หรือปรึกษาแพทย์ก่อน
  6. รับประทานยาอย่างต่อเนื่อง ไม่ควรหยุดยาเอง สังเกตอาการผิดปกติ เช่น เจ็บหน้าอกให้มาพบแพทย์ทันที
  7. งดออกกำลังกายหนักหรือใช้แรงมากในช่วง 2 สัปดาห์แรก
  8. ห้ามยกของหนักเกิน 5 กิโลกรัม ประมาณ 1 เดือน หลังทำหัตถการตรวจสวนหัวใจ
  9. หากไอหรือเบ่ง ให้กดบริเวณแผลไว้ หลังทำหัตถการตรวจสวนหัวใจ ประมาณ 7 สัปดาห์ (ในกรณีทำบริเวณขาหนีบ)

> กลับสารบัญ


ภาวะแทรกซ้อนในการทำบอลลูนหัวใจ

การทําบอลลูนหัวใจ ผลข้างเคียง หรือมีความเสี่ยงน้อยเพียง 1% แต่ยังคงมีความเสี่ยงของการทำบอลลูนหัวใจอยู่บ้าง โดยภาวะเสี่ยงของการทำบอลลูนหัวใจอาจมีดังต่อไปนี้

  • ติดเชื้อ มีเลือดออก หรือปวดบริเวณที่ใช้สายสวน
  • เกิดลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดหัวใจ ทำให้เกิดกล้ามเนื้อหัวใจตาย
  • แพ้สารทึบแสง อาจเกิดภาวะช็อกได้
  • หัวใจเต้นผิดจังหวะ
  • บางรายอาจเกิดภาวะหลอดเลือดหัวใจหรือกล้ามเนื้อหัวใจทะลุระหว่างทำการสอดใส่ท่อบอลลูนเข้าไปในเส้นเลือด
  • เกิดภาวะลิ่มเลือดไปอุดตันที่สมอง (อุบัติการณ์น้อยกว่า 0.2%)
  • เสียชีวิต (อุบัติการณ์น้อยกว่า 0.5%)

> กลับสารบัญ


บอลลูนหัวใจ กุญแจไขปัญหาหลอดเลือดหัวใจตีบ

อย่างไรก็ตาม การทำบอลลูนหัวใจภายใต้ความดูแลของแพทย์เฉพาะทาง ร่วมกับการปฏิบัติตัวตามที่แพทย์แนะนำก็จะช่วยลดความเสี่ยงดังกล่าวได้ นอกจากนี้ ทางศูนย์หัวใจ โรงพยาบาลนครธน ยังเพิ่มประสิทธิภาพด้วยการนำเครื่องเอกซเรย์สำหรับตรวจวินิจฉัยและรักษาโรคหลอดเลือดชนิดสองระนาบ หรือ ไบเพลน (Biplane DSA) มาช่วยในการตรวจและรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ตัน ช่วยให้ภาพที่ได้ออกมามีความคมชัด ช่วยให้แพทย์มองเห็นสายสวนหลอดเลือดที่ขนาดเล็กมากได้อย่างชัดเจน ทำให้สามารถรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจที่มีความซับซ้อนและคดเคี้ยวได้ สำหรับผู้ที่สนใจหรือมีข้อมูลที่อยากสอบถามเพิ่มเติม ในเรื่องเกี่ยวกับการทำบอลลูนหัวใจ ทางศูนย์หัวใจ โรงพยาบาลนครธน มีความพร้อม และมีบุคลากรทีมแพทย์เฉพาะทางไว้รองรับ และคอยช่วยเหลือให้คำปรึกษา สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมก่อนได้ตามข้อมูลที่ให้ไว้ได้เลย

> กลับสารบัญ


ช่องทางติดต่อโรงพยาบาลนครธน:

  1. - Website : https://www.nakornthon.com
  2. - Facebook : Nakornthon Hospital
  3. - Line : @nakornthon
  4. - Tel: 02-450-9999 (ตลอด 24 ชั่วโมง)


ปรึกษาทุกปัญหาสุขภาพแบบออนไลน์
ไม่เสียค่าใช้จ่าย




Share :

สินค้าในตระกร้าไม่ถูกต้องตามเงื่อนไข, กรุณาตรวจสอบจำนวน
จัดการตระกร้าสินค้า

เมื่อคลิก “อนุญาตคุกกี้ทั้งหมด” หมายความว่าผู้ใช้งานยอมรับที่จะเปิดการใช้งานคุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ เพื่อให้เว็บไซต์สามารถทำงานได้อย่างถูกต้องและเต็มประสิทธิภาพ เพื่อเปิดใช้คุณสมบัติของโซเชียลมีเดีย และเพื่อวิเคราะห์การเข้าใช้งานเพื่อนำข้อมูลไปใช้ในการทำการตลาดและการโฆษณา รวมถึงการแบ่งปันข้อมูลการใช้งานกับพาร์ทเนอร์โซเชียลมีเดีย